ระยะเวลาในการทำรากฟันเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของรากเทียม, สภาพกระดูกเบ้าฟัน, และเทคนิคการฝัง ในกรณีที่คนไข้เพิ่งสูญเสียฟันและมีกระดูกเบ้าฟันหนาพอ ระยะเวลาในการรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน ในบางกรณี เช่น ฟันหน้าที่ต้องการความสวยงามหรือมีการวางแผนฝังหลายซี่ สามารถทำฟันปลอมทันทีหลังจากฝังรากฟันได้
แต่หากมีปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือการสบฟันที่ผิดปกติ การรักษาจะต้องใช้เวลานานขึ้น เนื่องจากต้องมีการตรวจและการรักษาอย่างละเอียดจากทันตแพทย์หลายสาขา และอาจต้องมีการปลูกเสริมกระดูกหากกระดูกเบ้าฟันบาง
ขั้นตอนในการทำรากฟันเทียม
การทำรากฟันเทียมแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก:
- การฝังรากเทียม: ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง
- การรอให้รากเทียมเชื่อมกับกระดูกเบ้าฟัน: ใช้เวลาประมาณ 2-6 เดือน
- การทำครอบฟันหรือฟันปลอม: ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
ถึงแม้ว่าการทำรากฟันเทียมจะใช้เวลานาน แต่ก็ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทดแทนฟันธรรมชาติ โดยจะช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารเป็นธรรมชาติมากขึ้น ช่วยรักษากระดูกเบ้าฟันไม่ให้ละลาย และช่วยให้ฟันปลอมมีความกระชับและสวยงามมากกว่าฟันปลอมถอดได้
รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน?
หากคุณดูแลสุขภาพช่องปากและร่างกายได้ดี รากฟันเทียมสามารถอยู่ได้เกิน 20 ปี หรืออาจยาวนานถึง 30 ปี ในบางกรณี โดยการดูแลช่องปากให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการใช้ฟันในการกัดของแข็งหรือสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ควรใช้เฝือกฟันในกรณีที่นอนกัดฟันเพื่อรักษาสภาพของรากฟันเทียมให้ยาวนาน
ในส่วนของครอบฟันหรือฟันปลอมที่อยู่ในช่องปาก อาจจะมีอายุประมาณ 10 ปี เนื่องจากเกิดการสึกหรอจากการบดเคี้ยวอาหาร
สรุป
การทำรากฟันเทียมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยมีความกระชับและเป็นธรรมชาติมากกว่า การดูแลสุขภาพช่องปากและร่างกายจะช่วยให้รากฟันเทียมมีอายุยาวนาน หากคุณกำลังพิจารณาทำรากฟันเทียม อย่ากังวลไปค่ะ เพียงแค่ดูแลร่างกายและช่องปากให้ดี แล้วคุณจะสามารถยิ้มอย่างมั่นใจได้ค่ะ!
Dentalland Clinic Hatyai : ได้รับการรับรองมาตรฐาน ArokaGO Star